ประวัติ ของ อี ดาแฮ

ลี ดาแฮและครอบครัวของเธอได้ย้ายไปยังซิดนีย์, ประเทศออสเตรเลีย เป็นระยะเวลา 5 ปีและได้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมหญิงเบอร์วูดที่ซิดนีย์ ก่อนที่เธอจะเดบิวต์เป็นนักแสดงในเกาหลี ปัจจุบันนี้เธออาศัยอยู่กับแม่ของเธอในโซลในขณะที่พ่อและพี่ชายของเธอยังคงอยู่ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย นอกเหนือไปจากความสนใจด้านการแสดงแล้ว เธอยังมีความสนใจในการเต้นรำแบบโบราณของเกาหลีอีกด้วย โดยเธอได้แสดงต่อผู้ชมจำนวนหนึ่งที่ออสเตรเลียด้วย

ในปี 2551 ภายหลังจากยุน อึนเฮได้เซ็นต์สัญญากับตู้เย็นตระกูล Zipel ซัมซุงยังคงหาดาราที่จะมาเซ็นต์สัญญาต่อจากยุน อึนเฮเพื่อโปรโมตสินค้าตู้เย็นแช่กิมจิ โดยมีลี ดาแฮและฮัน กาอินได้เซ็นต์สัญญาในเวลาต่อมา ลี ดาแฮ ยังได้แสดงซีรีส์แนวแอคชั่นในปี 2551 ในเรื่องตระกูลรักหักเหลี่ยมแค้น ได้แสดงร่วมกับยุน จุงฮุนและซง ซึงฮย็อน หลังจากนั้นไม่นานอี ดาแฮก็ได้เข้าห้องฉุกเฉิน หลังจากที่เธอล้มลงหมดสติเนื่องจากตารางงานที่แน่นประกอบกับการออกกำลังกายอย่างหนักที่ยิมส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าอย่างมาก[2][3] แต่อี ดาแฮก็ได้มีการประกาศเรื่องที่น่าตกใจอย่างมากเมื่อเธอได้ประกาศที่จะออกจากละครเรื่องนี้เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพในตอนที่ 40[4] ซึ่งจะออกอากาศในวันที่ 14 มกราคม โดย มิน ฮเยริน ซึ่งเป็นตัวละครที่อี ดาแฮแสดงนั้นในบทได้บอกว่าได้เดินทางไปศึกษาต่อยังสหรัฐอเมริกาแล้วทิ้งเพื่อนๆ รวมทั้งความหลังต่างๆ ไว้เบื้องหลังโดยเป็นผลให้ดาแฮออกจากละครเรื่องนี้ไปอย่างถาวร โดยในที่สุดก็ได้ฮวาง จุงอึม นักแสดงสาววัย 23 ปี มารับบทเป็นลูกสาวอัยการ ผู้ซึ่งในตอนท้ายจะได้แต่งงานกับบทของ ยุน จุงฮุน[5]

ในปี 2552 อี ดาแฮประสบความสำเร็จในหลายๆอย่าง เธอได้เดินทางไปพักผ่อนกับแม่ของเธอในเดือนมกราคม และได้ย้ายสังกัดเข้าไปยัง J. Tune Entertainment[6] ซึ่งเป็นสังกัดเดียวกับเรน และได้เข้าร่วมเป็นนางแบบเดินแบบให้กับเสื้อผ้า Six to Five เสื้อผ้ายี่ห้อของเรน (Rain) ในฮ่องกง[7][8] เธอยังเป็นแบบให้กับ Swarovski Spring/Summer Collection อีกด้วย และเธอยังได้ถ่ายมิวสิกวิดีโอในเพลง "Dance For Two" กันนักแสดง,แรปเปอร์และนักร้องชาวไต้หวัน วิลเบอร์ แพน[9]

อี ดาแฮทำงานอย่างหนักในการเดบิวต์ภาพยนตร์สามมิติเกาหลีเรื่องแรกของเธอเรื่อง 'Song of Spring' เธอได้แสดงร่วมกับ ลี ซุงแจและอา ซึงกิ โดยเธอรับบทเป็นนางเอกชื่อ อาร่า ซึ่งเป็นนักเต้น แต่ต่อมาภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้ยกเลิกการสร้างเนื่องจากไม่มีงบประมาณ ทำให้ดาเฮไม่เคยแสดงภาพยนตร์มาถึงปัจจุบัน

และในปี2557 ดาเฮได้ย้ายเข้าสังกัด FNC Entertainment และได้มีผลงานละครเรื่อง Hotel King คู่กับ อี ดง-อุก ซึ่งเป็นการหวนกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในรอบเก้าปี

แหล่งที่มา

WikiPedia: อี ดาแฮ http://www.dramabeans.com/2008/06/from-sob-princes... http://www.leedahey.com http://people.search.naver.com/search.naver?sm=tab... http://star.sanook.com http://star.sanook.com/gossip/gossip_17333.php http://sixtofive1982.com/2009/01/30/013009-rainll-... http://coolsmurf.wordpress.com/2009/01/12/lee-da-h... http://kojaproductions.wordpress.com/2009/05/21/mv... http://archive.is/20120709085151/hanfever.wordpres... http://www.blike.net/node/6420